วันเสาร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2551

"เพื่อน"

" เพื่อน คือ.......? "

เพื่อน คือ คนที่รักคุณ

เพื่อน คือ คนที่หวังดีกับคุณ
เพื่อน คือ คนที่อยากห็นคุณมีความสุข
เพื่อน คือ คนที่จะอยู่กับคุณเมื่อคุณต้องการ
เพื่อน คือ คนที่ห่วงใยคุณ
เพื่อน คือ คนที่ไม่เคยคิดแข่งกับคุณ
เพื่อน คือ คนที่จริงใจกับคุณ
เพื่อน คือ คนที่เห็นคุณค่าของคุณ
เพื่อน คือ คนที่เห็นความสำคัญของคุณ


และอยากบอกเพื่อนว่า....


" เพื่อน...ข้ารักเอ็งว่ะ "

เพื่อนไม่เคยสมน้ำหน้า

มีแต่บอกว่าให้เริ่มใหม่
เพื่อนทุกคนคือกำลังใจ
ฉันจึงไม่เคยกลัวสิ่งใดถ้ามีเพื่อน
........................








วันพุธที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2551

แม่คือใคร....ในชีวิตเรา?.....


แม่คือใคร...ในชีวิตเรา?...

"แม่"คือ นักรักบริสุทธิ์ ผู้เป็นต้นแบบแห่งความรักที่ไม่มีเงื่อนไข แม่คือ ครูคนแรก ที่สอนเราถึงวิธีการดำเนินชีวิตในโลกนี้ ผู้สอนเราให้รู้จักแยกแยะระหว่าง "ความดี" กับ "ความเลว" "ความเหมาะสม" กับ "ความไม่เหมาะสม" "ประโยชน์" กับ "โทษ" ของสิ่งต่างๆ แม่คือ นายกรัฐมนตรี ผู้ตระเตรียมความจำเป็นขั้นพื้นฐานแก่ประชาชนแม่ คือ เกษตรกร ที่ลงแรงหว่านเมล็ดพันธุ์ เฝ้าพรวนดินรดน้ำและอดทนรอคอยการเกิดผลที่งอกงาม เป็นผู้ที่ดูแล เลี้ยงดู ฟูมฟัก นับตั้งแต่เราลืมตาดูโลกจนเติบโตขึ้นและพึ่งพาตนเองได้แม่คือ จิตรกร ผู้แต่งแต้มสีสันชีวิตอนาคตของเราแม่คือ นักสร้างแรงบันดาลใจ ผู้ทำให้ความฝันใฝ่ของเราเป็นความจริงแม่คือ นักประชาสัมพันธ์ ที่ชอบเชิดชูความสามารถของเราทำให้เรากล้าแสดงออกและพัฒนาศักยภาพที่ซ่อนอยู่อย่างเต็มที่แม่คือทหาร ผู้ทำหน้าที่ปกป้องภยันตรายให้เรา ตั้งแต่เราอยู่ในครรภ์ช่วยตัวเองไม่ได้จนกระทั่งเติบใหญ่สมบูรณ์และแข็งแรงแม่คือ นางพยาบาล ที่คอยเฝ้าไข้ ดูแลรักษา ยามเราเจ็บไข้ได้ป่วยแม่คือ นักบุญ ที่พร้อมเสียสละความสุขส่วนตัว โดยไม่คำนึงว่าตนต้องเสียประโยชน์เพียงใดแม่คือ ผู้ใช้แรงงาน ที่ทำงานหนักที่สุด ตั้งแต่เช้าจรดค่ำตั้งแต่วันจันทร์ถึงวันอาทิตย์ ไม่มีวันหยุดแม่คือ นักรบ ผู้ไม่เคยย่อท้อต่ออุปสรรค แต่ฝ่าฟันที่จะทำทุกสิ่งเพื่อชัยชนะในชีวิตของเราแม่คือ ผู้จัดการ ผู้แบ่งงานให้เราทำ ทำให้เรารู้จักคำว่า หน้าที่ และความรับผิดชอบแม่คือ ผู้พิพากษา ผู้ตัดสินคดีเวลาเราทะเลาะกับพี่น้องแม่คือ ที่ปรึกษาส่วนตัว ผู้ให้คำปรึกษาในเรื่องที่สำคัญ ทั้งทางกายภาพและจิตใจ ไม่ว่าจะเป็นปัญหาที่กิดขึ้นตามวัยของเรา การเลือกคบเพื่อน การเลือกคู่ครอง การประกอบอาชีพแม่คือ เพื่อน ผู้ให้กำลังใจ ให้ความรัก ความอบอุ่น ให้คำปรึกษา ให้ความช่วยเหลือในเรื่องต่างๆแม่คือ มัคคุเทศน์ ผู้นำเราท่องเที่ยวเรียนรู้ในโลกกว้างแม่คือ นักปรัชญา ผู้สอนให้เรารู้จัก "คุณค่าของชีวิต"แม่คือ กระจกเงา ผู้ที่ทำให้คำกล่าวที่ว่า "ลูกไม้ย่อมหล่นไม่ไกลต้น" เป็นจริง แม่มีอิทธิพลในการกำหนดท่าที ความคิด บุคลิก ลักษณะของเรา ทำให้เรามีเอกลักษณ์ต่างจากคนอื่น

แม่หรือว่าผู้หญิงที่แต่งงานแล้วให้กำเนิดลูก และลูกก็จะเรียกผู้หญิงคนนั้นว่าแม่โดยทั่วไปแล้วแต่ละภาษามักจะใช้อักษร "ม" เหมือนกันหมดเช่น
คนไทย จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า "แม่"
ภาษาอังกฤษ จะเรียกผู้ที่ให้กำเนิดว่า "มาเธอร์ (Mother)"
ภาษาสันสกฤต จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มารดา"
ภาษาบาลี จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มาตา"
คนจีน จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "ม่าม๊า"
คนแขก จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มามี๊"
คนฝรั่งเศส จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "มามอง"
คนญี่ปุ่น จะเรียกผู้ให้กำเนิดว่า "โอกาซัง"


" แด่..คุณแม่ "
มีน้ำใจมีไออุ่นให้หนุนตัก

มีความรักความห่วงใยไว้คลายเหงา

มีน้ำคำพร่ำสอนอาทรเรา

มีวิธีขัดเกลาเฝ้าใส่ใจ

สอนให้รู้สูงต่ำทำผิดถูก

สอนให้ปลูกเพาะวิชาไว้อาศัย

สอนให้รู้คุณค่าเงินตราไทย

สอนให้รู้จักให้เอื้ออารี

มากกว่านี้มากมีในคำสอน

มากมายพรความห่วงใยไม่หน่ายหนี

มากอภัยมากเมตตามากปราณี

ทั้งหมดนี้คือแม่แต่ผู้เดียว


คนเป็นครูควรอ่าน

จรรยาบรรณของครู


1.ครูต้องรักและเมตตาศิษย์ โดยให้ความเอาใจใส่ช่วยเหลือส่งเสริม
ให้กำลังใจในการศึกษาเล่าเรียนแก่ศิษย์โดยเสมอหน้า
2.ครูต้องอบรม สั่งสอน ฝึกฝน สร้างเสริมความรู้ ทักษะและนิสัย ที่ถูกต้องดีงาม ให้เกิดแก่ศิษย์ อย่างเต็มความสามารถ
ด้วยความบริสุทธิ์ใจ


3.ครูต้องประพฤติ ปฏิบัติตนเป็นแบบอย่างที่ดีแก่ศิษย์ทั้งทางกาย วาจา และจิตใจ
4.ครูต้องไม่กระทำตนเป็นปฏิปักษ์ต่อความเจริญทางกาย สติปัญญา จิตใจ อารมณ์และสังคมของศิษย์
5.ครูต้องไม่แสวงหาประโยชน์อันเป็นอามิสสินจ้างจากศิษย์ ในการปฏิบัติหน้าที่ตามปกติ และไม่ใช้ให้ศิษย์
กระทำการใด ๆ อันเป็นการหาผลประโยชน์ ให้แก่ตนโดยมิชอบ
6.ครูย่อมพัฒนาตนเองทั้งทางด้านวิชาชีพ ด้านบุคลิกภาพและวิสัยทัศน์ให้ทันต่อการพัฒนาทาง วิทยาการ เศรษฐกิจสังคม
และการเมืองอยู่เสมอ
7.ครูย่อมรักและศรัทธาในวิชาชีพครูและเป็นสมาชิกที่ดีต่อองค์กรวิชาชีพครู
8.ครูพึงช่วยเหลือเกื้อกูลครูและชุมชนในทางสร้างสรรค์
9.ครูพึงประพฤติ ปฏิบัติตน เป็นผู้นำในการอนุรักษ์ และพัฒนาภูมิปัญญา และวัฒนธรรมไทย